SAbestbacarat News : ไม่มีงานเลี้ยงใดไม่เลิกรา ! อาชีพนักฟุตบอลก็เช่นกันเมื่อถึงจุดๆ หนึ่งไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอายุ หรือสภาพร่างกายพวกเขาก็ต้องยอมรับความจริงว่าต้องถึงเวลา “แขวนสตั๊ด” เช่นเดียวกับ เมซุต โอซิล อดีตเพลย์เมกเกอร์ทีมชาติเยอรมัน ที่ยอมจำนนต่อกาลเวลาและตัดสินใจโบกมือลาสังเวียนหญ้า 100 หลาช่วงสัปดาห์นี้
โอซิล ในวัย 34 ปี ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากมาย ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ และเคยล้มเหลวจนแทบต่ำเตี้ยเรียดดิน โดยอาชีพของเขาเคยขึ้นถึงจุดสูงสุดตอนที่ได้เป็นตัวแทนของทัพ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด พร้อมทั้งคว้าแชมป์ที่นักฟุตบอลปรารถนาที่สุดนั่นก็คือโทรฟี่เวิลด์ คัพ
ชีวิตของ ดาวเตะชาวเยอรมันเชื้อสายเตอร์กิช ผกผัน เมื่อต้องย้ายไปเล่นให้กับ อาร์เซน่อล โดยเขาถึงขนาดเป็นขวัญใจสาวก “เดอะ กันเนอร์ส” และก็กลายเป็นนักเตะที่ไม่มีใครสนใจ จนต้องถูกเฉดหัวไปเล่นให้กับ เฟเนร์บาห์เช่ และ อิสตันบูล บาซาคเซฮีร์ ก่อนจะยุติวงจรพ่อค้าแข้งอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว
“เขาเป็นสุภาพบุรุษตัวจริง เขาเป็นคนน่านับถือมากๆ ตอนที่เขาอำลาสโมสร มันเป็นสิ่งที่ผิดพลาด เรามีความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยม และผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เขาเป็นผู้จัดการทีมของผมที่ อาร์เซน่อล หลังจากที่เขาออกไป มีหลายสิ่งเปลี่ยนแปลงสำหรับผม แต่ผมไม่สนใจที่จะโยนเชื้อเพลิงเข้ากองไฟอีกครั้ง”
แม้ช่วงท้ายอาชีพกับ อาร์เซน่อล จะไม่ค่อยสวยหรูนัก แต่เขายืนยันว่ายังคงเตรียมเชียร์และให้กำลังใจ “ปืนใหญ่” เสมอ รวมทั้งอยากเห็นพวกเขาผงาดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ “ตอนนี้ผมรู้สึกผ่อนคลาย และผมขออวยพรให้แฟนบอลอาร์เซน่อลได้พบกับสิ่งที่ดีที่สุด ซึ่งพวกเขาให้การหนุนหลังผมมาตลอด ผมคงมีความสุขกับพวกเขา ถ้าพวกเขาได้ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีก พวกเขาสมควรได้สิ่งนี้”
นับจากนี้ไปเบื้องหน้า โอซิล จะเลือกที่จะทำงานในแวดวงลูกหนังต่อไป หรือจะหันไปจับงานโค้ช หรือแหวกแนวไปทำอาชีพอื่นที่ไม่เกี่ยวกับฟุตบอล นั่นเป็นเรื่องที่เขาต้องตัดสินใจ แต่ที่แน่ๆ โอซิล คือหนึ่งในนักฟุตบอลพรสวรรค์สูงที่แฟนบอลไม่มีวันลืมชัวร์
สนับสนุนโดย Line : @SABEST